Squid Game ก้าวที่ 4 ของ Netflix จากร้านเช่าหนัง Mail DVD สู่ Internationalization Strategy

Squid Game (สควิดเกม เล่นลุ้นตาย) เป็นซีรีย์เกาหลีที่ออกมาในวันที่ 17 กันยายน 2021 ซึ่งออกมารวดเดียวครบ 9 ตอน (เราขอไม่พูดว่าในซีรีย์เป็นอย่างไรเพราะอาจจะ Spoil เนื้อหาได้) ซึ่งหลังจากที่ออกมาก็ได้รับความนิยมสูงมาก สูงจนกระทั่ง Ted Sarandos CEO ของ Netflix เอง บอกว่ามีความเป็นได้ที่จะเป็นซีรีย์ที่มีจำนวนผู้ชมมากที่สุดใน Netflix ตลอดกาล และในที่สุด Squid Game ก็สร้าง World Record สำเร็จด้วยจำนวน Subscribers เข้าชมถึง 111 ล้าน Subscribers ใน เดือนแรกที่ออนแอร์ นับว่าเยอะที่สุดของ Netflix แซงหน้า Bridgerton แชมป์เก่าที่ทำสถิติไว้ที่ 82 ล้าน Subscribers เช้าชมในหนึ่งเดือน ซึ่งเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะเอาซีรีย์ Non English มาเทียบกับ English แต่ Squid Game สร้างปรากฎการณ์ที่น่าตื่นเต้นนี้ได้อย่างน่าทึ่ง หลังจากที่ออนแอร์ได้สักพัก ก็มี เสียงชื่นชมและวิจารณ์ตามมาจำนวนมาก เรามาดูกันว่า ความร้อนแรงของ Squid Game เป็นอย่างไรบ้าง

Tweet จากทาง Jeff Bezos ชื่นชม Squid Game ซีรีย์ Netflix คู่แข่ง Amazon Prime (คลิกที่ภาพเพื่ออ่านเพิ่มเติม)

1. วันที่ 3 ตุลาคม 2021 Jeff Bezos ได้ออกมาทวิตข้อความถึง Reed Hasting และ Ted Sarandos เหล่าผู้บริหารของ Netflix คู่แข่งด้านสตรีมมิ่งของ Amazon Prime ด้วยความประทับใจและชื่นชมกลยุทธ์ Internationalization ในการนำพาซีรีย์เกาหลี Squid Game ให้กลายเป็นปรากฏการณ์ที่คนสนใจทั้งโลกได้

หลังจากที่ได้รับบทแสดงในซีรีย์ชื่อดังระดับโลกอย่าง Squid Game นางแบบและนักแสดงสาวชาวเกาหลี Jung Ho-yeon ก็ได้รับเลือกเป็น แบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Louis Vuitton (คลิกที่รูปเพื่อเข้าชม Instagram ของ Jung Ho-yeon)

2. Jung Ho-yeon ดาราหญิงที่รับบท Kang Sae-byeok ยอด Follow IG เพิ่มขึ้นหลายสิบเท่า (ยอด Follower มากกว่า 19 ล้าน) จนกระทั่งแซง ซองเฮเคียว ขึ้นเป็นดาราเกาหลีที่มียอด Follow IG สูงที่สุดในเกาหลีทั้งที่เพิ่งจะแสดงซีรีย์เป็นเรื่องแรก ได้เป็น Brand Ambassador ของ Louis Vuitton ในทันที

Laim Gallagher นักร้อง นักแต่งเพลงชาวอังกฤษ ก็ให้ความสนใจ และออกมาทวีตข้อความถึง Squid Game ด้วยเช่นกัน

3. Liam Gallagher ทวีตถึง Squid Game แม้แต่คนที่ดูแล้วไม่น่าจะออกมาพูดถึง Squid Game ที่สุดคนหนึ่งอย่าง Liam Gallagher อดีต Frontman แห่งวงร็อคชื่อดังอย่าง Oasis ก็ยังทนกระแสไม่ไหวออกมาทวีตข้อความถึง Squid Game ด้วยคน

Heo Sung Tae รับบท ผู้เล่นหมายเลข 101 ซึ่งตอนนี้ยอดผู้ติดตามทาง Instagram อยู่ที่ 2.2 ล้านบัญชี

Kim Joo Ryoung รับบทผู้เล่นหมายเลข 212 ซึ่งตอนนี้ยอดผู้ติดตามทาง Instagram อยู่ที่ 2.4 ล้านบัญชี

Lee Jung Jae รับบทผู้เล่นหมายเลข 456 ซึ่งตอนนี้ยอดผู้ติดตามทาง Instagram อยู่ที่ 4.9 ล้านบัญชี

Ho Yeon Jung รับบทผู้เล่นหมายเลข 067 ซึ่งตอนนี้ยอดผู้ติดตามทาง Instagram อยู่ที่ 23.6 ล้านบัญชี

4.นักแสดงของ Squid Game ทุกคนมียอดผู้ติดตาม Instagram เพิ่มสูงขึ้นมากกว่าล้าน Follower แสดงให้เห็นว่ากระแสไม่ได้อยู่เพียงในตัว Netflix แต่กระจายไปทั่วทุก Platform

S.Korea broadband ผู้ให้บริการทางอินเตอร์เน็ตจากเกาหลีใต้ ได้ออกมาฟ้องร้อง Netflix เพราะ Squid Game ทำให้การใช้ Internet เพิ่มขึ้นอย่างมาก

5. บริษัท S.Korea broadband ผู้ให้บริการ Internet ของเกาหลีออกมาฟ้อง Netflix จากการที่ Squid Game ได้รับความนิยมอย่างมาก ทำให้มีผู้เข้าชม Squid Game แบบสตรีมมิ่งเป็นจำนวนมหาศาล ส่งผลให้คุณภาพในการบริการอินเตอร์เน็ตในแพลตฟอร์ทอื่นๆลดลง อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่นี่ https://www.reuters.com/business/media-telecom/skorea-broadband-firm-sues-netflix-after-traffic-surge-squid-game-2021-10-01/

รองเท้า VANS slip-on สีขาวยอดขายพุ่งขึ้น 78 เท่าหลัง Squid Game ออกฉาย

6. หลังจากที่ Squid Game ออกฉาย นอกจากจะสร้างประวัติศาสตร์ เป็นซีรีย์ International ที่มีคนดูมากที่สุด ส่งผลให้ดาราเกาหลีหลายๆคน มีชื่อเสียงดังระดับโลกไม่พอ ยังส่งผลให้รองเท้า VANS Slip-on สีขาว มียอดขายถล่มทลาย เพิ่มขึ้นจากเดิม 78 เท่าอีกด้วย เนื่องจากเป็นรองเท้าที่ตัวละครในซีรีย์ใส่กันนั่นเอง

Squid Game ขึ้นอันดับ 1 Netflix ทั่วโลกรวมทั้ง US จากการจัดอันดับของ flixpatrol.com

7. นับว่าเป็นที่น่าประทับใจมากที่ Series ประเภท Non-English จากฝั่งเอเชีย จะได้รับความริยม ขึ้นอันดับ 1 ของ Netflix ไม่ใช่แค่ในฝั่งเอเชียเอง แต่ยังขึ้นอันดับ 1 ทั้งทางฝั่ง US และทั่วโลกอีกด้วย

Netflix จับมือกับ Walmart ทำของที่ระลึกจาก Squid Game เพื่อวางจำหน่ายให้แฟนๆ (คลิกที่รูปเพื่อเข้าชมของที่ระลึกจาก Squid Game)

8. เป็นที่แน่นอนว่า กระแสอันร้อนแรงของ Squid Game ส่งผลให้ทาง Netflix ที่จับมือกับห้างสรรพสินค้าชื่อดังอย่าง Walmart เร่งวางจำหน่ายของที่ระลึกจากซีรีย์เพื่อให้แฟนได้เก็บเข้าคอลเลคชั่นกันอย่างทันที ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้มีของที่ระลึกจากซีรีย์ดังๆมากมาย เช่น Stranger Things, Cocomelon, The Witcher

รางวัล Emmy Awards ที่ Netflix กวาดไปถึง 44 รางวัลในปี 2021

ความร้อนแรงของ Squid Game เป็นการต่อยอดความสำเร็จของ Netflix อย่างยิ่งใหญ่หลังจากที่เพิ่งได้รับ 44 รางวัล Emmy Awards ไปก่อนหน้านั้นไม่นาน ซึ่งถือว่าเป็นการได้รางวัลมากที่สุดในประวัติศาสตร์ในรอบหลายสิบปีหลังของ Emmy Awards เลยทีเดียว

สามก้าวแรกอันยิ่งใหญ่ของ Netflix

Netflix มีการปรับเปลี่ยนองค์กรครั้งใหญ่ 3 ครั้ง ที่น่าสนใจ คือ ครั้งแรกคือการเปลี่ยนโมเดลธุรกิจจาก ให้เช่า DVD ทางไปรษณีย์(Mail DVD) มาเป็น Streaming ครั้งที่สองคือ จากการให้บริการแค่ US เป็นทั่วโลก ( US to Global) ครั้งที่สามคือ จากการนำ Content คนอื่นมาให้ชม เปลี่ยนเป็นสร้าง Netflix Original เอง (License Content to Original Content) ซึ่งทั้งสามก้าวที่ผ่านมาสร้างความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ให้กับ Netflix แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ คู่แข่งในปัจจุบันทั้ง Disney+ , Amazon Prime , Apple TV+ , HBO Max ก็มีทุกอย่างที่ว่ามานี้เช่นกัน เขามี Content ตัวเอง มี Streaming ไปทั่วโลกเช่นกัน แล้ว Netflix จะทำอย่างไรให้ก้าวเหนือคู่แข่งอีกครั้ง ซึ่ง Squid Game คือคำตอบ

Streaming คือ Buffet

การรับชมซีรีย์ และภาพยนตร์ผ่านทาง Streaming สร้างประสบการณ์ดูหนังแบบบุฟเฟ่ต์ให้ผู้ใช้งาน

Streaming หลักการไม่ต่างจากการร้านอาหารแบบบุฟเฟต์ คือดูเท่าไหร่หรือกินเท่าไหร่ก็ได้ในเวลาที่กำหนด ถามว่าเจ้าของร้านบุฟเฟต์จะได้กำไรเมื่อไหร่ ก็คือได้เมื่อมีคนเข้ามากินเยอะไม่พอ ต้องกินของถูกด้วย สมมติว่าถ้าคนเข้ามากินบุฟเฟต์แล้วกินแต่เนื้อ A5 ทางร้านโอกาสขาดทุนสูงมาก แต่ถ้าคนเข้าร้านแล้วเข้ามากินแต่กิมจิล่ะ ร้านจะกำไรแบบคาดไม่ถึงทีเดียว และนั่นคือโมเดลของ Squid Game

Squid Game ก้าวที่ 4 ของ Netflix

Squid Game ซีรีย์ Non-English ที่สร้างปรากฎการณ์ได้รับความนิยมสูงสุดทัวโลก

แน่นอนว่านอกจากการสร้าง Content ให้ดีเพื่อให้คนเข้าชมมาก ซึ่ง Netflix มีการลงทุน Content มากที่สุดประมาณ 17 Billion USD ต่อปีแล้ว ทาง Netflix ก็ให้ความสำคัญกับ Non English Content มากๆ หรือที่เรียกว่าซีรีย์ Local ซึ่งประสบความสำเร็จสูงสุดกับซีรีย์ Lupin ซึ่งเป็นซีรีย์ฝรั่งเศส และมีอีกหลายซีรีย์ที่ประสบความสำเร็จเช่น Money Heist ซึ่งเป็นซีรีย์สเปน แต่ยังไม่เคยมีซีรีย์ Asian ที่ประสบความสำเร็จทั่วโลกมาก่อน จนกระทั่ง Squid Game เข้าฉาย ซึ่งไม่ได้เพียงแค่ประสบความสำเร็จแต่กลายเป็นซีรีย์ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดเหนือ English Content ด้วยซ้ำไป ซึ่งต้นทุนการทำ Squid Game ต่ำกว่าต้นทุนของซีรีย์ใหญ่ๆ ที่เป็น English Content 10 เท่าหรือมากกว่า

Lupin ซีรีย์สัญชาติฝรั่งเศส หนึ่งในซีรีย์ Non-English ที่ช่วยส่งเสริมกลยุทธ Internationalization ของ Netflix ได้เป็นอย่างดี

Money Heist หรือชื่อในภาษาสเปน La Casa De Papel ซีรีย์ภาษาสเปนที่ได้รับความนิยมทั้งทางฝั่งละตินอเมริกา และทั่วโลก

ยกตัวอย่างในกรณีที่ Disney+ สร้าง WandaVision ใช้ทุนการผลิตไป 200 ล้าน USD แต่ Squid Game ใช้ทุนการผลิตมีการประเมินว่าประมาณ 15-17 ล้าน USD เท่านั้น ซึ่งถ้าหากสมมติว่า Subscriber คนหนึ่งดูซีรีย์ได้ 2 เรื่อง ต้นทุนสร้าง Squid Game ประมาณ 500 ล้านบาท คนดู 110 ล้านคน เท่ากับว่าต้นทุนต่อคนดู ไม่ถึง 5 บาทต่อคน Netflix เก็บลูกค้าเดือนละ 300 บาท โดยประมาณ เท่ากับว่าได้เงินจากลูกค้าครึ่งเดือน 150 บาท แต่ต้นทุนค่าผลิตแค่ไม่ถึง 5 บาท (เหมือนคนซื้อบัตรกินบุฟเฟต์ เนื้อวากิวแต่มากินแค่กิมจิ) นั่นคือสิ่งที่ไม่มี Streaming เจ้าไหนเคยทำได้แต่ Netflix ทำสำเร็จแล้วกับ Squid Game คือการทำให้ Local Content กลายเป็น International Content โดยเฉพาะการทำ Asian Content ให้กลายเป็น International ซึ่งเป็นก้าวย่างที่ 4 ที่ยิ่งใหญ่กว่า 3 ก้าวแรกที่เคยก้าวมาเสียอีก

และที่เป็นปรากฏการณ์มากๆคือไม่เพียงแค่มีคนดูแต่กลายเป็น World Record ที่มีคนดูมากที่สุดในโลก จนต้องตั้งคำถามกันว่า English Content ที่ลงทุนมหาศาลทำไมไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ขนาดนั้น ไม่เพียงแค่ Squid Game ประสบความสำเร็จ ยังทำให้คนที่อยากดูซีรีย์ที่มีการเล่นเกมส์ไปดู Alice in Borderland ซึ่งเป็น Netflix Original ที่เป็นซีรีย์ญี่ปุ่นอีกครั้งทำให้ Alice in Borderland กลับมามีเรตติ้งติด Top10 ทั่วโลกอีกด้วย ซึ่งการที่ซีรีย์เก่ากลับมาติดชาร์ทอีกครั้งเรียกว่าแทบจะไม่เคยเกิดขึ้นในวงการภาพยนต์หรือซีรีย์เลย เพื่อนๆล่ะดู Squid Game กันหรือยัง

---

ติดตาม และอ่านบทความอื่นๆของพวกเรา Frisbee & Co. ได้ที่ LINE Official: @frisbee Twitter: @FrisbeeCo Website: frisbeeandco.com